ตั้งแต่ที่ เซอร์เบีย ยังเป็นส่วนหนึ่งของ เซอร์เบีย แอนด์ มอนเตเนโกร
ก่อนที่จะแยกตัวมาเป็นชาติอิสระ ทั้งสองชาติได้เผชิญหน้ากับทีมชาติอังกฤษเพียงครั้งเดียวในปี 2003 ซึ่งเป็นเกมอุ่นเครื่องที่อังกฤษชนะไปได้ด้วยสกอร์ 2-1
ย้อนกลับไปในอดีต เซอร์เบียเคยเป็นส่วนหนึ่งของประเทศยูโกสลาเวีย
ซึ่งในสมัยนั้น ยูโกสลาเวีย ถือเป็นหนึ่งในชาติกีฬาที่น่าจับตามอง ในการแข่งขันกับอังกฤษ ยูโกสลาเวียมีประวัติการพบกันที่ค่อนข้างยาวนาน โดยใน 5 เกมสุดท้ายที่พบกัน อังกฤษไม่เคยแพ้เลย ชนะได้ 3 เกมและเสมอ 2 เกม ครั้งสุดท้ายที่อังกฤษแพ้ยูโกสลาเวีย เกิดขึ้นในศึกยูโร 1968 ซึ่งอังกฤษพ่าย 1-2 ในรอบรองชนะเลิศ นับเป็นความทรงจำที่ไม่ดีสำหรับทัพ “สิงโตคำราม” เนื่องจากในสมัยนั้นการแข่งขันรอบสุดท้ายมีเพียง 4 ทีมเท่านั้นที่ได้เข้าร่วม
ตั้งแต่ แกเร็ธ เซาธ์เกต เข้ามารับตำแหน่งผู้จัดการทีมชาติอังกฤษ
ทีมได้แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งและความสามารถในการเก็บชัยชนะเรื่อยมา ในการแข่งขันทัวร์นาเมนท์ใหญ่ ๆ เขาพาทีมชนะในนัดเปิดตลอด 3 ครั้งที่สำคัญ ไม่ว่าจะเป็น ฟุตบอลโลก 2018 ที่ชนะ ตูนิเซีย 2-1, ยูโร 2020 ที่ชนะ โครเอเชีย 1-0 และล่าสุดในฟุตบอลโลก 2022 ที่สามารถถล่ม อิหร่าน 6-2 ทั้งหมดนี้เป็นแสดงถึงความสามารถในการเตรียมพร้อมและความสามารถในการจัดการกับแรงกดดันของ เซาธ์เกต
ย้อนกลับไปดูทางฝั่งของ เซอร์เบีย ที่คราวนี้ได้มีโอกาสเข้าร่วมการแข่งขันยูโรรอบสุดท้ายเป็นครั้งแรกตั้งแต่แยกตัวเป็นชาติอิสระ หากย้อนกลับไปในสมัยที่ยังเป็นยูโกสลาเวีย พวกเขาสามารถเก็บชัยชนะในนัดเปิดของการแข่งขันยูโรได้ถึง 2 ครั้งจากการเข้าร่วมทั้งหมด 5 ครั้ง ครั้งแรกในปี 1960 ซึ่งชนะฝรั่งเศส 5-4 ในรอบรองชนะเลิศ และครั้งที่สองในปี 1968 ที่ชนะอังกฤษ 1-0 ในรอบรองชนะเลิศอีกเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ประวัติศาสตร์ก็เป็นเพียงแต่ผ่านมา ความท้าทายที่ยิ่งใหญ่กว่านี้กำลังรออยู่ในอนาคต
ในปี 2003 ขณะที่ แกเร็ธ เซาธ์เกต ยังเป็นนักเตะ เขาเคยมีประสบการณ์ในการเจอกับทีม เซอร์เบีย แอนด์ มอนเตเนโกร ซึ่งครั้งนั้น อังกฤษ ชนะไปได้ 2-1 ทำให้ เซาธ์เกต รู้จักและมีประสบการณ์ในความแข็งแกร่งของทีมชาตินี้
ในขณะที่ ดราแกน สตอยโควิช เทรนเนอร์ทีมชาติเซอร์เบียกแดปอะพห
เคยเป็นนักเตะยูโกสลาเวียเช่นกันและเคยเจอกับทีมชาติอังกฤษ 3 ครั้ง ทั้งสามครั้งนั้นจบลงด้วยความพ่ายแพ้ทั้งหมด เริ่มจากเกมยูโร รอบคัดเลือกในปี 1986 เมื่อทีมพ่ายแพ้ 0-2 แม้ว่าเขาจะไม่ได้ลงสนาม จากนั้นในเกมยูโร รอบคัดเลือกปี 1987 ที่เขาได้ลงสนามเต็มเวลาแต่พ่าย 1-4 และสุดท้ายในเกมอุ่นเครื่องปี 1989 ที่พ่าย 1-2 แม้จะลงเล่นครบ 90 นาที
การพบกันครั้งแรกระหว่างทีมชาติอังกฤษและทีมชาติเซอร์เบียในศึกยูโร 2024
นี้จึงเป็นการทดสอบที่สำคัญและน่าตื่นเต้นอย่างมาก ทั้งสองชาติจะต้องประลองยุทธกันในเวทีระดับยุโรปที่ยิ่งใหญ่ แฟนบอลทั้งสองฝ่ายต่างเฝ้ารอชมการแข่งขันด้วยความหวังที่สูง ท่ามกลางความกดดันและความคาดหวัง การที่แต่ละทีมมีประวัติและความผูกพันกับทางฟุตบอลในระดับชาติอย่างแข็งแรง จะทำให้เกมนี้เป็นเกมที่ไม่ควรพลาดโดยเฉพาะสำหรับเหล่าแฟนบอลที่ชื่นชอบฟุตบอลในทวีปยุโรป