ทุกทีมใน พรีเมียร์ลีก ลงสนามครบ 12 เกม ประมาณคร่าวๆ ฤดูกาลนี้ก็ผ่านพ้นไปแล้ว 1 ส่วนจาก 3 ส่วน ยังมีเส้นทางให้ลุยกันอีกมาก มองไปที่ตารางคะแนน ทีมใหญ่ๆ ยังคงทิ้งแต้มไม่ห่างกันมาก ที่น่าลุ้นที่สุดคือ ลิเวอร์พูล ที่กำลังเบียดจ่าฝูงเรือใบสีฟ้าอย่างสนุก ส่วน เชลซี ก็เกาะอันดับสามไว้เหนียวแน่น ขณะที่ อาร์เซนอล ดูจะดร็อปลงไปอีกครั้งจากที่เคยชนะติดกันมาเจ็ดเกม ทั้งสามทีมมีสไตล์การเล่นเน้นเกมรุกคล้ายๆ กันแต่อะไรที่ทำให้ทั้งสามทีมแตกต่างกัน ลองวิเคราะห์กันดู
เชลซี
จุดแข็ง คือ ฟอร์มเทพของ เอเด็น อาซาร์
สไตล์การเล่นที่แผ่ขยายพื้นที่ต่อการเปิดเกมบุกของ “เมาริซิโอ ซาร์รี” ทำให้ “เอเด็น อาซาร์” เหมือนได้แจ้งเกิดใหม่ ทั้งนี้น่าจะเป็นครั้งแรกที่เขาได้รับโอกาสในการเล่นเป็นแนวรุกอิสระและเนื่องจากผู้เล่นในแผงมิดฟิลด์
ที่ช่วยกันเติมเกมขึ้นมาหลายคน จึงเป็นโอกาสให้ อาซาร์ มีพื้นที่มากขึ้นบริเวณกราบซ้าย เขาอยู่ในฟอร์มการเล่นที่สุดยอด จากสถิติเขาทำหนึ่งประตูเฉลี่ยทุก 71 นาที ยอดเยี่ยมกว่านักเตะทุกคนใน พรีเมียร์ลีก
จุดด้อย คือ ถูกจับทางได้
อาซาร์ โดดเด่นใน เชลซี มากจนเกินไป เกมรุกจึงขาดความหลากหลาย คือ เหมือนการขึ้นเกมซ้ำ ๆ ที่มาจาก จอร์จินโญ ไปที่ อาซาร์ นี่คือเหตุผลว่าทำไม เอฟเวอร์ตัน ยันเสมอแบบพวกเขาได้แบบไร้สกอร์
ในเกม พรีเมียร์ลีก นัดล่าสุด
ลิเวอร์พูล
จุดเด่น – เดินเกมรุกหลากหลาย
เจอร์เก้น คล็อปป์ ไม่ได้มีสถิติที่ดีนักยามเจอกับทีมท้ายตาราง แต่ในฤดูกาลนี้ หงส์แดง ก็เริ่มมีแนวโน้มที่ดีขึ้นในจุดนี้ ก่อนหน้านี้พวกเขาไปไม่เป็นทุกครั้งที่เจอกับคู่ต่อสู้ที่มาอัดแหลก และปิดพื้นที่ด้านหลังแนวรับไม่ให้
ซาดิโอ มาเน่ และ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ มีโอกาสเล่น แต่ในตอนนี้พวกเขาเริ่มเล่นฟุตบอลแนวไดเร็กมากขึ้นซึ่งเป็นสไตล์ที่ไม่เคยเห็นจากคล็อปป์มาก่อน
จุดด้อย – แผงมิดฟิลด์ที่ทำได้ไม่ดีนัก
การเล่นของแนวมิดฟิลด์ น่าจะเป็นสิ่งที่ทำให้แฟนบอลลิเวอร์พูลผิดหวังมากกันไปตาม ๆ กัน โดย นาบี เกอิตา และ ฟาบินโญ สองนักเตะค่าตัวแพงที่ คล็อปป์ หวังดึงตัวมาช่วยเติมเต็มในแผงมิดฟิลด์
แต่ผลงานพวกเขากลับทำได้ไม่ดีนัก ผิดกับ เจมส์ มิลเนอร์ และ จอร์จินโย ไวนัลดุม ที่กลับทำได้ดีขึ้นกว่าที่คาดไว้ อาจจะเป็นเพราะแรงผลักดันจากการมีคู่แข่งหน้าใหม่เข้ามาในทีม ฟอร์มการเล่นที่ยังมีสะดุดบ้าง
อาจมีสาเหตุมาจากคุณภาพในแผงมิดฟิลด์ที่ยังไม่ถูกรีดออกมาอย่างเต็มที่จากนักเตะบางคน
อาร์เซนอล
จุดแข็ง – เกมรุกที่รวดเร็ว
แทคติกเกมรุกของ “อูไน เอเมรี” ถูกนำมาปรับใช้ได้อย่างลงตัวกับทีม ถือเป็นผลงานชิ้นโบแดงของกุนซือชาวสเปน หลังการอำลาทีมไปของ “อาร์เซน เวนเกอร์” นักเตะปืนใหญ่เล่นกันได้อย่างคึกคักกระฉับกระเฉงมากขึ้น
อาร์เซนอล ในตอนนี้เล่นกันในจังหวะที่เร็วมากขึ้นและมีการผ่านบอลเร็วไปข้างหน้าเพื่อหวังผลในเกมเคาท์เตอร์แอทแทค นักเตะ ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมยอง, อเล็กซองเดร ลากาแซตต์, เฮนริค มคิตาร์ยาน โดดเด่นขึ้นเลย
เนื่องจากการปรับเปลี่ยนในครั้งนี้
จุดด้อย – เกมรับที่ยังไม่ลงตัวเท่าไหร่
การเน้นเกมรุกจึงทำให้เกมรับกระจัดกระจาย “อาร์เซนอล” เจอปัญหาเสมอเมื่อคู่แข่งตัดบอลได้ การมี กรานิต ชากา ในแดนกลางไม่ได้ช่วยอะไรมากนัก (แม้ว่าในช่วงสองสามสัปดาห์ที่ผ่านมาจะดูดีขึ้นเมื่อมี ลูคัส ตอร์เรร่า
ลงมาช่วยยืนคู่กัน) แต่แทคติคเปิดหน้าให้ฟูลแบ็คสองข้างบุกแหลก คือต้นตอปัญหาใหญ่